วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โป้งเดียวผีน็อก!เจทีโขกชัยเชลซีหนี 5 แต้ม

นัดเยือนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเล่นดีที่สุดในฤดูกาลนี้ลงท้ายด้วยความพ่ายแพ้ต่อเชลซีจากประตู ปัญหาของจอห์น เทอร์รี่เมื่อดิดิเยร์ ดร็อกบาเจตนาทำฟาว์ลแต่สุดท้ายกลายเป็นประตูตัดสินชัยให้ลูกทีมคาร์โล่ อันเชล็อตติทิ้งรองฝูงร่วมไปเป็น 5 แต้มพร้อมทำสถิติชนะในบ้าน 6 นัดรวด 100 % อีกด้วย

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2552


เชลซี 1-0 แมนฯยูไนเต็ด

ประตู : 1-0 เทอร์รี่ น.76


"ปีศาจแดง"สภาพทีมเป็นรองเห็นๆหลังวันนี้ขาดเซนเตอร์ตัวจริงไปทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นริโอ เฟอร์ดินานด์และเนมันย่า วิดิชแถมต้องมาเจอกับโคตรถึกอย่างดิดิเยร์ ดร็อกบาอีกด้วย

ครึ่งแรก

อิวาโนวิชประเดิมซัด
เริ่มมา 4 นาทีเชลซีได้เสียวก่อนจากจังหวะที่อิวาโนวิชทำชิ่ง 1-2 กับดร็อกบาจนหลุดเข้าเขตโทษถึงเส้นหลังก่อนเปิดตบเข้าในแต่ถูกอีแวนส์ดักกิน แต่บอลไปเข้าทางแบ็คเจ้าถิ่นที่ยิงหักข้อจนสุดท้ายฟาน เดอร์ ซาร์ล้มตัวรับเข้าซอง

หมูยิงเข้าข้าง
อีก 7 นาทีต่อมาโอกาสแรกของทีมเยือนเป็นเอวร่ากระชากหนีอิวาโนวิชตรงปีกซ้ายก่อน เปิดเลียดเข้าเขตโทษให้รูนีย์หันหลังพลิกหนีคาร์วัลโญ่ก่อนยิงเร็วด้วยอี ซ้ายตรงมุมแคบ 6-7 หลาแต่บอลพุ่งชนข้างตาข่ายแบบโคตรเสียว

เกมสูสีหาโอกาสยาก
เล่นมาถึง 15 นาทีไปๆมาๆยูไนเต็ดครองเกมได้มากกว่าแต่คู่นี้บอลยังทันกันทำให้โอกาสสวยๆ จะๆยังไม่มีเลยแต่ที่แน่ๆคือเกมค่อนข้างเร็วและเข้าถึงเนื้อถึงตัวตลอด

เกือบหนึ่งชั่วโมงแลกคนละหมัด
นาที 28 หลังเจาะไม่เข้าอเนลก้าได้บอลระยะไกล 25 หลาก่อนตัดสินใจส่องยิงเลียดเต็มข้อแต่น้าเอ็ดดี้ยืนตำแหน่งดีล้มตัวรับเข้า ซองไม่มีกระฉอก

อีกนาทีเดียวเฟลทเชอร์บรรจงวางยาวจากกลางสนามข้ามหัวเซนเตอร์ให้กิกส์ วิ่งหนีล้ำหน้าก่อนกระดกจังหวะเดียวหลังเห็นเช็กปรี่ออกมาถึงหน้าเขตโทษแต่ บอลลอยโด่งออกไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย

นิโก้เกือบเรียกสกอร์
เกมเริ่มยกระดับความเสียวขึ้นเรื่อยๆนาที 32 เชลซีเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่อเนลก้าทำท่าจะติดเครื่องตรงริมกรอบ โทษฝั่งขวาก่อนล็อกแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านด้วยอีซ้ายร้อนถึงฟาน เดอร์ ซาร์ต้องบินปัดทิ้งให้มาออกด้านข้างไว้ก่อน

แท็คติกส์ผียังเฉียบ
แดนกลางผีทำเกมได้ดีกว่าฝั่งเชลซีค่อนข้างชัดเจนโดยเฉพาะเฟลทเชอร์ที่ ตัดเกมส่วนคาร์ริคผ่านบอลให้รูนีย์เก็บได้หลายครั้งส่วนดร็อกบายังทำอะไรไม่ เป็นชิ้นเป็นอันหลังเจอเวส บราว์นตามกระกบได้ดีเหลือเชื่อ


เชลซีเกมรุกฝืดๆ
เชลซีขึ้นเกมทางขวาบ่อยมากแต่ลูกครอสของอิวาโนวิชยังไม่ค่อยเข้าเป้า ส่วนแอชลีย์ โคลที่ชอบเติมเกมรุกเป็นชีวิตจิตใจยังไม่ได้สำแดงอะไรมากนักเพราะยังมีปีก เร็วๆอย่างวาเลนเซียให้คอยพะวงอยู่ หมดครึ่งแรกเสมอ 0-0 โดยที่ฝั่งยูไนเต็ดเอาชนะคะแนน 10-8

ครึ่งหลัง

ผีสานต่อทันที
เริ่มมานาทีเศษๆเอวร่าล้มตัวเปิดบอลจากปีกซ้ายให้รูนีย์พิงบอลหันหลัง ใส่เทอร์รี่ก่อนแทงออกให้เฟลทเชอร์วิ่งมายิงตรงหน้ากรอบแต่บอลเหินข้าม คานออกไปซะงั้น

จากนั้นไม่นานรูนีย์ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษดึงแข้งเชลซีมารุมได้หลายคนก่อนไหลออกอีกด้านให้กิกส์แต่ปีกขนดกแทนที่จะยิงดันเลือกชิพจะให้อันแดร์สันโถมมาโขกแต่บอลล้นออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

เชลซีเล่นไม่ออก
วันนี้ดร็อกบาเล่นไม่ออกเพราะไปฝืนเล่นทั้งลากทั้งยิงจนทำโอกาสเสียหลาย จังหวะแล้ว ส่วนนักเตะยูไนเต็ดวันนี้มาแบบทีมเวิร์คเพราะรู้ว่าเกมนี้มาเยือนต้องอย่าง น้อยมีแต้ม

และนาที 61 เชลซีสบโอกาสจากจังหวะที่อเนลก้าหลอกจะเปิดตรงริมกรอบโทษ 2-3 ทีจนเอวร่าเสียเส้นแล้วลูกเปิดถูกอีแวนส์โขกทิ้งไปเข้าทางแลมพ์ที่สวนยิง ด้วยอีซ้ายแต่บอลไม่แรงมากทำให้น้าซาร์ล้มตัวรับหนึบ

หมูพลิ้วซัดเกือบหาย
อีก 5 นาทียูไนเต็ดน่าจะขึ้นนำอย่างที่สุดจากจังหวะที่กิกส์กับรูนีย์ไปแย่ง นัวเนียกันเองหน้ากรอบแต่"หมูพลิ้ว"สดกว่าเลยเก็บเล่นต่อแล้วไหลนิ่มๆให้วา เลนเซียที่เติมมาช่วยในกรอบด้านข้างแต่เจ้าตัวเลือกไม่ไปแต่แตะบอลตั้งให้ หอกคุณพ่อมือใหม่วิ่งมายิงบอลเลียดติดไซด์ถากเสาไปแค่หลาเดียวเท่านั้น

รูนีย์ป่วนอีก
อีก 2 นาทีต่อมารูนีย์เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆและคราวนี้พลิกบอลหันหน้าเข้าหา ประตูตรงหน้ากรอบได้ก่อนตัดสินใจเอียงตัวปั่นไซด์เช็กต้องบินปัดสองมือเอา เตะมุมไว้ก่อน

ดร็อกบาชักกะตุกก่อนเจอใบก้อนเหลือง
นาที 72 อีแวนส์รอดพ้นถูกลงโทษหลังกระโดดแย่งบอลกับดร็อกบาเลยโชว์กังฟูเฉินหลงถีบ เข้ายอดอกจนหอกทีมชาติไอเวอรี่โคสต์ลงไปนอนอ้าปากดิ้นแบบคนทรงคล้ายกระตุก เส้นยึดแต่กลับไม่มีใครเข้ามาดูยกเว้นกรรมการที่ทนมองไม่ไหวเรียกแพทย์เข้า มาเก็บศพด่วน

แต่สุดท้ายพอลุกขึ้นมาดร็อกบากลับโดนใบเหลืองหลังมาร์ติน แอตกินสันมองว่า"แมลงสาบ"เข้ามาช้าใส่อีแวนส์เอง

เจทีโขกเชลซีขึ้นนำ 1-0
แต่นาที 76 เชลซีมาได้ประตูขึ้นนำหน้าตาเฉยจากฟรีคิกเยื้องตรงหัวมุมกรอบโทษฝั่งซ้ายของ แลมพาร์ดที่เปิดยัดเข้าเขตโทษเป็นเทอร์รี่โขกเช็ดบอลกระเด้งตกพื้นเสียบ หน้าต่างเข้าไป เป็นเม็ดแรกของเจทีในฤดูกาลนี้อีกด้วย

จังหวะนี้ผู้เล่นทีมเยือนประท้วงกันหน้าสลอนเพราะดร็อกบาไปผลักเวส บราว์นที่กำลังแหย่ขาสกัดจากด้านหลังจนล้มลงสุดท้ายรูนีย์ถูกใบเหลืองจากการ ประท้วงอีกต่างหาก

บอลเดือดเกือบมีมวย
เกมเดือดสุดๆนาที 81 รูนีย์ลงมาล้วงบอลตรงกลางสนามแต่ถูกคาร์วัลโญ่มาแซะร่วงแล้วผู้ตัดสินเป่าไป แล้วแต่คาร์วัลโญ่ไม่ยอมเลิกเลี้ยงต่อทำให้อีแวนส์บอกเดี๋ยวกูหยุดให้เลยหวด กลิ้งคลุกหญ้าจนเกือบมีมวยหมู สุดท้ายแล้วแอตกินสันมาแจกใบเหลืองให้ทั้งคาร์วัลโญ่และอีแวนส์กันไป

ช่วงเวลาที่เหลือเชลซีสวมบทเขี้ยวรักษาสกอร์ 1-0 เอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งทำให้หนีอาร์เซนอลและยูไนเต็ดไปเป็น 5 แต้มโดยที่ลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์ยังสามารถบีบให้เหลือ 2 แต้มเนื่องจากมีเกมตกค้าง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก 6.5,บรานสลาฟ อิวาโนวิช 6.5,จอห์น เทอร์รี่ 8 *,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 8,แอชลีย์ โคล 6.5,มิกาเอล เอสเซียง 7,แฟร็งค์ แลมพาร์ด 7,มิชาเอล บัลลัค 6.5,เดโก้ 5(โจ โคล น.63,6),ดิดิเยร์ ดร็อกบา 6(กาลู น.83),นิโกลาส์ อเนลก้า 7(อเล็กซ์ น.90+3)

แมนฯยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6.5,จอห์น โอเช 6.5,เวส บราว์น 6.5,โจนาธาน อีแวนส์ 6.5,ปาทริซ เอวร่า 7,ดาร์เรน เฟลทเชอร์ 7,ไมเคิ่ล คาร์ริค 6,อันแดร์สัน 7(โอเว่น น.85),อันโตนิโอ วาเลนเซีย 7,เวย์น รูนีย์ 7.5,ไรอัน กิกส์ 6.5(โอแบร์ต็อง น.85)





















































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Custom Search

ข่าว Hot!!!